Last updated: 11 มี.ค. 2562 | 8862 จำนวนผู้เข้าชม |
1.กลิ่นอับชื้นภายในห้องน้ำ
Solution: การแก้ปัญหาแรกเริ่มตั้งแต่การออกแบบบ้าน ก็คือการพยามออกแบบตำแหน่งของห้องน้ำทุกห้องให้ติดกับภายนอก หรือหากอยู่ทางทิศใต้และทิศตะวันตกก็จะยิ่งดี เนื่องจากมีแสงสว่างจากธรรมชาติส่องเข้ามาเพื่อฆ่าเชื้อโรคได้ ช่องเปิดของห้องน้ำกับภายนอกก็สามารถออกแบบได้หลากหลายวิธี เช่น บานกระทุ้ง บานเกล็ด บานเลื่อนและบานเปิด ที่สามารถทำให้เกิดการระบายอากาศระหว่างภายในกับภายนอกได้เป็นอย่างดี ส่วนในกรณีที่ห้องน้ำไม่สามารถอยู่ติดกับภายนอกได้ ก็จำเป็นจะต้องติดตั้งเครื่องดูดอากาศแบบติดกับฝ้าที่ช่วยดูดกลิ่น อากาศและความอับชื้นผ่านท่อเพื่อปล่อยสู่ภายนอก
2.น้ำในห้องน้ำไม่ระบายลงท่อ
Solution: เช็คความลาดเอียงของห้องน้ำใหม่ โดยปกติแล้วการทำระดับพื้นห้องน้ำจะต้องให้ลาดเอียงไปยังท่อระบายน้ำในสัดส่วนความลาดชันประมาณ 1:200 และพื้นจะต้องลาดอย่างสม่ำเสมอ ไม่เกิดแอ่งที่พื้นในบางจุดที่จะทำให้น้ำขังได้ นอกจากนั้นระดับพื้นห้องน้ำยังควรต่ำกว่าห้องภายนอกอย่างน้อย 5 เซนติเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลออกสู่ภายนอกห้องน้ำได้
3.อาบน้ำแล้วเปียกไปทั้งห้องน้ำ
Solution การแก้ปัญหานี้มีวิธีเดียวคือต้องแบ่งส่วนแห้งและส่วนเปียกตามการใช้งาน โดยส่วนแห้งจะประกอบด้วยอ่างล้างหน้าและโถส้วม ส่วนส่วนเปียก ได้แก่ ส่วนอาบน้ำฝักบัวและอ่างอาบน้ำ ทั้งสองส่วนควรแยกออกจากกันด้วยวิธีต่างๆ ตามความเหมาะสมของพื้นที่ เช่น กั้นห้องแยกกัน กั้นด้วยประตูกระจกหรือผ้าม่านกันน้ำ เป็นต้น
4.พื้นลื่นจนทำให้เกิดอันตราย
Solution: การเลือกวัสดุปูพื้นห้องน้ำเป็นสิ่งที่สำคัญต่อความปลอดภัย โดยควรเลือกใช้กระเบื้องหรือหินที่มีเท็กซ์เจอร์ค่อนข้างหยาบ ผิวด้านและไม่มันเงา แต่ถ้าหากสุดวิสัยไม่สามารถปูกระเบื้องใหม่ที่เหมาะสมได้ ก็จำเป็นจะต้องใช้แผ่นยางรองกันลื่นสำหรับห้องน้ำในส่วนที่เป็นฝักบัวและส่วนเปียกไปก่อน
5.แสงสว่างไม่เพียงพอ
Solution: บริเวณเคาน์เตอร์ซิงก์ควรเพิ่มไฟประเภท Task Light โดยอาจจะเป็นในรูปแบบของโคมไฟติดผนังติดบริเวณกระจกที่ให้แสงสว่างมาจากด้านหน้า ทำให้บริเวณหน้ากระจกสว่างและสะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น
6.ท่อระบายน้ำตันระบายน้ำไม่ทัน
Solution: ท่อระบายน้ำสกปรกหรือท่อน้ำทิ้งควรมีขนาดมาตรฐาน ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอย่างน้อย 3 นิ้ว ทำให้น้ำทิ้งผ่านลงไปได้อย่างรวดเร็วกว่า การเลือก Floor Drain ก็ควรมีฝาตะแกรงครอบเพื่อกันไม่ให้สิ่งสกปรกและฝุ่นผงอันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ท่อตันหลุดลงไปในท่อได้ นอกจากนั้นยังควรดูแลรักษาความสะอาดบริเวณ Floor Drain อย่างสม่ำเสมอ
7.ที่เก็บของภายในห้องน้ำไม่เพียงพอ
Solution: พื้นที่เก็บของในห้องน้ำควรออกแบบให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ โดยส่วนใหญ่มักออกแบบให้มีตู้เก็บของอยู่ใต้เคาน์เตอร์ซิงก์เป็นตู้บานปิด เพื่อเก็บพวกม้วนกระดาษและอุปกรณ์ทำความสะอาด ส่วนสบู่และยาสระผมที่จำเป็นต้องใช้งานประจำควรเลือกชั้นวางของแบบเปิด ติดตั้งในส่วนอาบน้ำบริเวณตำแหน่งที่อยู่ในระยะเอื้อมและหยิบใช้ได้อย่างสะดวก รวมทั้งยังเป็นวัสดุที่ง่ายต่อการทำความสะอาด เช่น อะครีลิคและสเตนเลสสตีล เป็นต้น
8.ไฟฟ้าช็อตที่เกิดจากปลั๊กและสวิตช์ไฟภายในห้อง
Solution: ปลั๊กหรือ Outlet ภายในห้องน้ำควรอยู่สูงกว่าพื้นประมาณอย่างน้อย 70 เซนติเมตร หรืออยู่ระดับเดียวกับเคาน์เตอร์ซิงก์ และอยู่ในส่วนแห้งเท่านั้นเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้น้ำโดนปลั๊ก นอกจากนั้นภายในห้องน้ำควรเลือกใช้ปลั๊กหรือ Outlet ประเภทกันน้ำได้หรือมีฝาครอบกันน้ำ เพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดจากการการใช้งานด้วย
9.ผนังหรือฝ้าที่อยู่ติดกับห้องน้ำมีการบวมน้ำที่เกิดจากความชื้น
Solution: ก่อนที่จะปูกระเบื้องจำเป็นต้องฉาบผนังห้องน้ำด้วยน้ำยากันความชื้นหรือน้ำยากันซึมให้ดีเสียก่อน โดยเฉพาะส่วนของฝักบัวและส่วนของอ่างอาบน้ำควรตรวจสอบการซึมให้ดี ฝ้าเพดานก็เช่นกันควรใช้ฝ้ายิปซัมทนความชื้นฉาบเรียบสำหรับห้องน้ำโดยเฉพาะ
10.วัสดุบางชนิดที่ใช้ภายในห้องน้ำทำความสะอาดได้ยาก
Solution: ห้องน้ำส่วนใหญ่เลือกใช้กระเบื้องเซรามิคเป็นคำตอบสำหรับวัสดุในห้องน้ำ เนื่องจากดูแลรักษาและทำความสะอาดได้ง่ายที่สุด กระเบื้องที่มีเท็กซ์เจอร์หยาบๆ ก็จะทำความสะอาดได้ยากกว่ากระเบื้องที่มีเท็กซ์เจอร์เรียบทั่วไป รวมทั้งกระเบื้องแผ่นใหญ่ที่การปูมีรอยต่อน้อยกว่า ก็จะลดพื้นที่สะสมของเชื้อโรคและคราบสกปรกได้มากกว่า
ขอบคุณที่มา: http://www.home.co.th/
11 เม.ย 2563
1 ต.ค. 2557
11 พ.ย. 2563